Smile Central

Detail container background

Bullet icon การเคลือบผิวฟัน

การเคลือบผิวฟัน เป็นการนำวัสดุเซรามิกที่มีความบางเป็นพิเศษมาติดบนผิวฟันด้านหน้า ซึ่งสามารถช่วยป้องกันฟันที่มีผิวหน้าสึกกร่อนให้มีความแข็งแรงมากขึ้น รวมถึงช่วยแก้ปัญหาเรื่องรูปร่างหรือสีของฟันที่ไม่สวยงามได้อีกด้วย

เคลือบฟันเทียม Veneer or Facing

เคลือบฟันเทียม หรือ การทำวีเนียร์ Veneer or Facing เป็นทันตกรรมเพื่อความสวยงามที่สามารถใช้เพื่อแก้ไขความผิดปกติของรูปร่างฟัน สีฟัน รวมถึงการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติ (เล็กน้อย) เคลือบฟันเทียม เป็นการฉาบฟันด้วยวัสดุสีเหมือนฟัน สามารถทำได้ด้วยวัสดุ 2 ประเภท ได้แก่ คอมโพสิตเรซิน (Composite Rasin) และ พอร์ซเลน/เซรามิก (Porcelain/Ceramic) โดยมีการกรอแต่งผิวเคลือบฟันในปริมาณที่น้อยมากเพื่อนำวัสดุสีเหมือนฟันมาติดกับผิวด้านหน้าฟัน

เคลือบฟันเทียม เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่สามารถแก้ไขสีฟันคล้ำให้ดูเหมือนสีฟันธรรมชาติได้ โดยสูญเสียเนื้อฟันน้อยกว่าการทำครอบฟัน วัสดุที่นิยมนำมาใช้ในงานเคลือบฟันเทียมได้แก่ เซรามิค และคอมโพสิตเรซิน

วัตถุประสงค์ในการทำเคลือบฟันเทียม

  1. เพื่อปิดช่องว่างระหว่างฟันหน้าหลายๆซี่ ที่ห่างกันเพียงเล็กน้อย
  2. เพื่อแก้ไขรูปร่างฟันที่ผิดปกติ
  3. เพื่อรักษาฟันซึ่งเกิดการหักของฟันโดยไม่ทะลุโพรงประสาทฟัน
  4. เพื่อแก้ไขฟันที่มีเคลือบฟันผิดปกติ
  5. เพื่อแก้ไขฟันที่มีสีเข้มผิดปกติที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการฟอกสีฟัน
  6. เพื่อแก้ไขฟันที่เรียงตัวผิดปกติไม่มาก

คุณสมบัติของเคลือบฟันเทียมแบบคอมโพสิตเรซิน (Composite Resin Veneer)

  1. เป็นวัสดุที่มีความสวยงามเลียนแบบฟันธรรมชาติ
  2. มีคุณภาพดี แข็งแรง ทนทาน
  3. เสียค่าใช้จ่ายถูกกว่าวัสดุพอร์ซเลนหรือเซรามิก
  4. การซ่อมแซมหรือทำคอมโพสิตเรซินวีเนียร์ใหม่ สามารถซ่อมแซมทดแทนเฉพาะส่วนได้ ด้วยวัสดุคอมโพสิตเรซินชนิดที่ทำในคลินิคได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องทำวีเนียร์ใหม่ทั้งชิ้น
  1. มีคุณภาพต่ำกว่าวัสดุ พอร์ซเลนหรือเซรามิค
  2. เมื่อเวลาผ่านไป วัสดุจะดูดซึมน้ำทำให้วัสดุดูด้าน ไม่มันวาว สีทึบ หรือเปลี่ยนสี
  3. มีความสามารถในการปิดบังสีฟันคล้ำได้ต่ำกว่า พอร์ซเลน/เซรามิก

คุณสมบัติของเคลือบฟันเทียมแบบพอร์ซเลนหรือเซรามิก (Porcelain/Ceramic Veneer)

  1. มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ เลียนแบบเคลือบฟันมนุษย์ได้ดี
  2. มีความแข็งแรงทนทานต่อการแตกหักสูง
  3. ไม่ดูดซึมน้ำ ทำให้ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงสี และมิติ
  4. ไม่ติดคราบสีต่างๆ เช่น เครื่องดื่มประเภทชา, กาแฟ, น้ำอัดลม, อาหาร, บุหรี่ และแอลกอฮอล์
  5. ทนทานต่อการสึกกร่อนและการเกิดรอยขีดขวน
  6. มีความเงางามตลอดอายุการใช้งาน
  7. พอร์ซเลน หรือเซรามิกวีเนียร์สามารถเข้ากันได้กับเนื้อเยื่อรอบฟัน เนื้อเยื่อที่สัมผัสกับขอบวีเนียร์จะมีสุขภาพที่ดี เนื้อเยื่อเหงือกก็จะมีสุขภาพสมบูรณ์ และเซรามิกมีความเรียบเงาจึงไม่เป็นที่สะสมของคราบจุลินทรีย์ได้ง่าย
  1. ค่าใช้จ่ายสูงกว่าการใช้วัสดุคอมโพสิตเรซินวีเนียร์
  2. เวลาในการทำ ใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ครั้งในการรักษา
  3. ทันตแพทย์ต้องมีประสบการณ์และความชำนาญในการทำงานสูง
  4. การซ่อมแซมหรือทำเซรามิกวีเนียร์ใหม่จะทำได้ยากและใช้เวลามาก

การตกแต่งและบูรณะฟันด้วยวัสดุเรซินสีเหมือนฟัน

การตกแต่งและบูรณะฟันด้วยวัสดุเรซินสีเหมือนฟัน เป็นการนำวัสดุเรซินที่สามารถเลือกสีให้เหมือนกับฟันของผู้เข้ารับบริการนั้นๆ มาประยุกต์ใช้ในงานทันตกรรมเพื่อความสวยงาม ซึ่งเป็นวิธีการที่มีค่าใช้จ่ายไม่มาก

การตกแต่งและบูรณะฟันด้วยวัสดุเรซินสีเหมือนฟัน

  • สามารถนำมาใช้ในการซ่อมแซมฟันที่ผุ
  • สามารถนำมาใช้ในการซ่อมแซมฟันที่บิ่นหักเล็กน้อย
  • สามารถใช้ในการแก้ไขปัญหาสีของฟันที่ไม่สวยงาม
  • สามารถใช้ในการปิดช่องว่างระหว่างฟัน
  • สามารถช่วยในการเพิ่มความยาวของฟัน
  • สามารถช่วยในการแก้ไขปัญหาเรื่องสีและรูปร่างของฟัน
  • ช่วยอำพรางหรือลดความชัดเจนของคราบสีบนฟัน
  • สามารถใช้ในการแก้ปัญหาฟันล้มได้ระดับหนึ่ง
  • เป็นอีกทางเลือกหนึงในการอุดฟันนอกจาการใช้วัสดุอมัลกัม
  • สามารถใช้ในการอุดปิดคอฟันและปกป้องผิวของรากฟันที่โผล่ออกมานอกเหงือกซึ่งมักเกิดจากปัญหาเหงือกร่น

ขั้นตอนการบูรณะฟันด้วยวัสดุเรซิน

  1. ขั้นตอนการตรวจวินิจฉัยและการเตรียมฟัน
    • ทันตแพทย์จะทำตรวจวินิจฉัยแล้วจึงทำการเทียบสีฟันเพื่อที่จะสามารถเลือกใช้สีของวัสดุที่ใกล้เคียงกับสีฟันของผู้ป่วยมากที่สุด
    • การขัดและกรอผิวฟันให้มีความหยาบเพื่อให้การติดยึดของวัสดุมีความทนทานมากที่สุด
  2. ขั้นตอนการใช้วัสดุเรซิน
    • การติดวัสดุเรซิน และแต่งรูปให้มีความเหมาะสมกับฟัน
    • การฉายแสงเพื่อให้วัสดุแข็งตัว
    • การกรอแต่งรูปร่างและการขัดวัสดุให้มีความสวยเงางาม การบูรณะและตกแต่งฟันด้วยการใช้วัสดุเรซิน เช่นการอุดปิดช่องว่างระหว่างฟันนั้น แทบจะไม่มีการกรอเนื้อฟันออกเลย ดังนั้นวิธีการนี้จึงไม่ก่อให้เกิดการเสียวฟันหรืออาจเกิดขึ้นได้น้อยมาก

วิธีการดูแลรักษา

  • ควรทำความสะอาดด้วยการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง การแปรงฟันหลังรับประทานอาหารเป็นการเริ่มวินัยที่ดีในการดูแลสุขภาพปากและฟันซึ่งเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติอย่างยิ่ง
  • ควรทำความสะอาดด้วยไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 - 2 ครั้ง
  • ควรทำการบ้วนปากด้วยน้ำยาผสมฟลูออไรด์ก่อนนอนทุกวัน โดยทำกลั้วน้ำยาและอมไว้ในปากอย่างน้อย 1 นาที และไม่ควรดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารภายใน 30 นาทีหลังการบ้วนปาก
  • ควรให้ความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเคี้ยวของแข็งบริเวณที่ได้รับการบูรณะตกแต่งฟัน
  • ควรพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน

ตัวอย่างรูปผู้ป่วยที่ได้รับการฟอกสีฟันและเปลี่ยนวัสดุฟันด้วยเรซินคอมโพสิต

Close sidebars